ทรายอะเบท กำจัดลูกน้ำยุงลาย
ทรายอะเบท “ทรายอะเบท” (Abate)
เป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ทรายกำจัดลูกน้ำยี่ห้อหนึ่ง หมายถึงทรายที่ถูกเคลือบด้วยสารเคมีพวกอะเบท (เป็นสารประกอบที่มีฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบ) ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้นำมาใช้ในการกำจัดลูกน้ำของยุงลายตามบ้านเรือนจึงทำให้ประชาชนทั่วไปรู้จักกันในชื่อนี้ ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีการเรียกชือต่างๆกันออกไป เช่น “ทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย” “ทรายเทมีฟอส” เป็นต้น แต่ในบทความนี้จะเรียกตามชื่อทรายอะเบทเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ
สรรพคุณ
: ใช้เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย ซึ่งจะเป็นอีกทางที่จะป้องกันมิให้เกิดการระบาดของโรคไข้เลือดออกซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ ทั้งนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดลูกน้ำได้นานประมาณ 3 เดือน (ต่อการใช้ 1 ครั้ง)
การใช้ทรายอะเบท
: การใช้ อันที่จริงแนะนำให้ใช้ตามฉลากแต่ละผลิตภัณฑ์ เนื่องจากความเข้มข้นไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง ทราย 1 กรัม ใส่ในน้ำ 1 ลิตร หรือ 10 กรัม ในน้ำ 100 ลิตร ซึ่งของทางสำนักอนามัยกรุงเทพฯ(ตามภาพ)จะมีช้อนตวงเล็กๆขนาด 1 กรัม มาในซองด้วย ที่สำคัญผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.โดยสังเกตจากการแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข (วอส.) ในกรอบเครื่องหมาย อย. บนฉลากด้วยนะ
แต่ละยี่ห้อ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันยังไง?
: จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของปริมาณความเข้มข้น เช่น 1%, 2% ซึ่งเมื่อนำไปใช้ก็ใช้โดยอัตราส่วนที่แตกต่างกัน เช่น ทรายกำจัดลูกน้ำยุงสูตรที่มี ทีมีฟอส(temephos) 1% โดยน้ำหนักจะต้องนำไปใส่ในน้ำที่อัตราส่วนทรายอะเบท 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หรือถ้าใช้สูตรที่มี ทีมีฟอส 2% โดยน้ำหนักให้ใช้ในอัตราส่วน 0.5 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร เป็นต้น ง่ายๆอาจจะใช้ตามฉลากของแต่ละยี่ห้อก็ได้
ใส่น้ำดื่มได้ไหม? นำไปชงดื่มได้ไหม? ถ้าเกิดดื่มไปแล้วจะอันตรายไหม?
: มีประชาชนบางท่านถามแบบนี้จริงๆนะครับ ว่าเอาไปชงน้ำกินเพื่อป้องกันยุงใช่ไหม? คำตอบคือ อย่าทำเลย (ถึงจะเห็นว่ามี อย.ก็ใช่ว่าจะทานได้นะครับ) เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการดื่ม แต่ถ้าพลาดไปใส่โอ่งน้ำดื่ม(ปริมาณไม่มาก)แล้วเผลอไปดื่มก็ไม่เป็นอันตราย หากกลืนกินสารที่ความเข้มข้นสูง ให้ทำให้อาเจียน บ้วนปากล้างปากด้วยน้ำสะอาด แล้วรีบนำส่งแพทย์ทันที
ใส่น้ำแล้วนำมาอาบ มาล้างหน้าจะมีผลต่อผิวหนังไหม?
: หากถูกผิวหนังในลักษณะเจือจางก็อาจจะไม่มีผลอะไรครับ แต่เพื่อความมั่นใจหากถูกผิวหนังหรือสัมผัสโดยตรง ให้ล้างออกด้วยสบู่ ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบถอดออกแล้วเปลี่ยนใหม่ทันที หรือหากเข้าตาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนอาการระคายเคืองทุเลาลง
อ่างเลี้ยงปลาใส่ได้ไหม?
: อย่าเลยดีกว่า เนื่องจากส่วนใหญ่ปลาที่เลี้ยงก็จะกินลูกน้ำเป็นอาหารอยู่แล้ว
สัตว์เลี้ยงมาทานน้ำที่ใส่ทรายอะเบทจะเป็นไรไหม?
: ทรายอะเบทมีความเป็นพิษต่ำต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหากสัตว์ได้รับประทาน(ในกรณีที่เจือจากในน้ำ) แต่ทั้งนี้ควรจัดน้ำสะอาดไว้ให้น้องหมา น้องแมวจะดีกว่า
หมดอายุใช้ได้ไหม?
: หมดอายุไม่ควรนำไปใช้ เพราะการที่สารหมดอายุแสดงว่าปริมาณสารออกฤทธิ์ไม่ได้ผล 100% ดังนั้นเมื่อนำมาใช้ฆ่าลูกน้ำ จะไม่สามารถทำให้ลูกน้ำตายได้ 100% ยุงที่รอดก็จะกลายยุงที่ดื้อต่อสารเทมีฟอส(temephos) ดังนั้นจึงไม่ควรนำไปใช้งาน
มีแจกที่ไหน หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
: ในช่องทางออนไลน์จะมีขายอยู่บ้าง แต่อาจจะเป็นแพคหรือยกโหล อีกช่องทางง่ายๆ สามารถขอรับได้ที่สำนักงานเขต และสำนักงานอนามัยใกล้บ้าน ส่วนต่างจังหวัดจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกแจกจ่ายตามบ้านเรือนประชาชนทั่วไป ถ้าหากบ้านไหนยังไม่ได้รับ สามารถติดต่อได้ที่ สาธารณสุขจังหวัด หรือที่โรงพยาบาลของรัฐฯ ได้เช่นกัน
ทรายอะเบท (Abate) เป็นสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำหน้าที่ขัดขวางการเจริญเติบโตของลูกน้ำ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเป็นยุงตัวเต็มวัยได้ ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้ซิกา และโรคชิคุนกุนยา
วิธีการใช้ทรายอะเบทในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย:
- ใส่ในภาชนะที่มีน้ำขัง
ใส่ทรายอะเบทลงในภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น โอ่ง ถังน้ำ หรือกระถางต้นไม้ที่มีน้ำขัง โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำบนฉลาก - เปลี่ยนน้ำทุก 3 เดือน
ทรายอะเบทจะมีประสิทธิภาพในการควบคุมลูกน้ำได้นานประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นควรเปลี่ยนน้ำและเติมทรายใหม่เพื่อป้องกันการเกิดลูกน้ำ - ปริมาณที่ใช้
ใช้ทรายอะเบทในปริมาณเล็กน้อย โดยทั่วไปใช้ประมาณ 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หรือประมาณครึ่งช้อนชา - ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
ทรายอะเบทเป็นสารที่มีความปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
การใช้ทรายอะเบทเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของยุงลายที่ได้ผลดีและสามารถทำได้ง่าย
ยุงลายเป็นพาหะนำโรคที่อันตราย เนื่องจากสามารถแพร่เชื้อไวรัสต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงหลายชนิด โดยเฉพาะในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน อันตรายจากยุงลายมีดังนี้:
- โรคไข้เลือดออก (Dengue Fever)
ยุงลายเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก อาการของโรคนี้มีตั้งแต่ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอาจรุนแรงถึงขั้นเลือดออกภายในและทำให้เสียชีวิตได้ - โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)
เชื้อไวรัสชิคุนกุนยาถูกแพร่โดยยุงลาย อาการที่พบได้บ่อยคือไข้สูง ปวดข้อรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดการปวดข้อเรื้อรังเป็นเวลาหลายเดือน แม้โรคนี้มักไม่ทำให้เสียชีวิต แต่อาการปวดข้อสามารถทำให้ชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบมาก - โรคไข้ซิกา (Zika Virus)
ยุงลายยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งอันตรายโดยเฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากสามารถทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น ศีรษะเล็กผิดปกติ (Microcephaly) และปัญหาทางระบบประสาท - โรคไข้เหลือง (Yellow Fever)
โรคไข้เหลืองเป็นอีกโรคหนึ่งที่แพร่กระจายโดยยุงลาย อาการแรกเริ่มมักจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และปวดกล้ามเนื้อ แต่ในกรณีรุนแรงอาจทำให้มีเลือดออกภายใน ตับวาย และอาจเสียชีวิตได้
วิธีป้องกันยุงลาย:
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น น้ำขังในภาชนะต่าง ๆ
- ใช้ทรายอะเบทใส่ในน้ำขังเพื่อกำจัดลูกน้ำยุง
- ใช้ยาทากันยุงและมุ้งกันยุงเพื่อป้องกันการถูกยุงกัด
การป้องกันและควบคุมยุงลายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงที่สามารถแพร่ระบาดจากยุงชนิดนี้ได้




